พลังเอกภพยูเรอัส

เห็นหม่งไปหลายลูกเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิดเป็นรายการตี 10 นานแล้วครับ เวลาม่งเสร็จแสกผมออกมาดูก็ว่าแดงๆหน่อยนะ หรือเลือดนิดๆก็ไม่แน่ใจ แต่ทุเรียนสะท้อนกลับไปเลย โหดจริงๆ อืม.. ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีคาถานะ แต่ก็เป็นความสามารถเฉพาะตัว พี่ๆน้องๆ อย่าลองหม่งกันเลือดสาดผมไม่รู้นะ

 

พี่ๆน้องๆ มีใครรู้บ้างว่าอาการกระดูกทับเส้นเกิดจากร่างกายส่วยใดผิดปกติครับ
คนป่วยปวดต้นคอจนถึงแขน (คูณหมอที่ครินิกสันนิษฐานว่าอาจะเป็นกระดูกทับเส้น)
คนป่วยทำงานจักสานเครื่องหวายมาหลายสิปีแล้ว คงจะก้มคอมาก
แล้วระช่วยรักษายังไงดีครับ

 

รองปรึกษา อาจารย์ suwi ดูครับ

 

อาจารย์ท่านนี้อยู่ที่ไหนล่ะครับ
ติดต่อได้ทางไไหนครับ

 

ปวดคอ

ที่น้องไม้ ว่า อาการแค่ ปวดต้นคอ ลงแขน อาการยังไม่เป็นกระดูกทับเส้นประสาท ถ้าเป็นจะต้องมีอาการชา ลงมือลงแขนด้วย

อาการที่ว่า แค่ปวดต้นคอ เกิดการการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นเวลา นาน เรื้อรัง
โดยส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด น้อยมากที่จะเกิดจากการทำงาน(กรณีนี้ จะพบว่า กระดกคอจะสึกมาก) สังเกตุ ถ้าเราเพ่งที่ฐาน 7 นานๆ อาจเกิดการเกร็งต้นคอได้ แต่ถ้าเราปรับในระหว่างเำพิ่งที่ฐาน 7 ให้กล้ามกล้ามเนื้อต้นคอให้คลาย การเกร็งจะลดลงจนหมดไป

วิธีแก้ เอามือบีบต้นคอให้คลายเกร็ง และ กำหนดจิตให้ว่าง กำหนดลมกระจายบริเวณต้นคอ และ ก้านสมอง สุดท้าย ใ่ส่บาตร ขอขมากรรม เ้จ้ากรรมนายเวรถ้าีมี (แก้ ทั้งกาย จิต และ กรรม)

 

ตอนนี้ เวลาไหว้พระ ที่ บ้าน ทดลอง ขอให้แดดจัดๆ ให้น้ำระเหย

น้ำท่วมครั้งนี้ เป็นบทเรียน ขนาดไม่มีพายุเข้า ยังไม่มีที่เก็บน้ำ หรือ ทางน้ำไหลเลย
ความจริงทุกอำเภอ จะต้องวาง แหล่งเก็บน้ำ ส่วนเกินไว้ใช้ หน้าแล้ง
ศูนย์ ภัยพิบัติ ไม่มีแผนปฏิบัติงาน เฮไปตามเรื่อง

 

ผมรู้สึกช่วงนี้แดดจัดจริงๆครับ

 

ขอบคุณคำแนะนำจากคุณพี่สุขอนันต์มากครับ
จะลองนำไปช่วยเหลือตามที่แนะนำก่อนครับ

 

กลับมาแล้ว จ้า................

หลบ ไป เที่ยว เสีย หาย วัน.................55

ได้ ไปอิสาน มา
ร่วมทำบุญ กับ คณะ ฯ
หากเงิน สมทบ โรงเรียน ในชนบท....

เสร็จ แล้ว ถือโอกาส ข้ามไปเทียว ฝั่งเมือลาว
เบ็ดเสร็จ 6 วัน.........................................55

 

ตอบ เรื่อง ฟันอิฐ ต่อ นิดหนึ่ง

สรุปว่า
พอ เข้าใจวิธีการ
คือ การใช้มือเปล่า ฟาด ลงไป บนอิฐ มอญ สำหรับก่อสร้าง
ที่ เรืยง ซ้อน กัน 10 ก้อน

หาก ฟาด แบบ เอา แต่ แรง ฟาด ลงไป แบบ สุดแรงเกิด
อิฐ มัน ก็ หัก เฉพาะ ก้อน บนๆ

ฟัน แรงๆ ขึ้นไป อีก จน อิฐ ก้อน บนๆ แตก กระจาย
ก็ เท่านั้น
อิฐ ก้อนล่าง จะไม่ หัก

ต้อง ส่ง กำลัง ลงไป ให้ถึง อิฐ ทั้ง 10 ก้อน ลงไป จนถึง ก้อน ล่างสุด
ตั้งใจ ให้ ดี ดี
ฟาด ลงไป แรง แต่ ไม่ ต้อง สุดแรงเกิด
มีสมาธิ
ส่งแรง ลงไป ที่ผ่ามือ
แล้ว ส่งผ่าน พลัง งาน ทั้งหมด ลงไป ที่ อิฐ ให้ หมด

ผล ลัพธ์ ที่ได้

อิฐ ก็ จะ แตก หัก ทั้งหมด 10 ก้อน ได้ ตาม ที่ ตั้งใจไว้

......................

ถ้า ฟัน ให้อิฐหัก ได้ หมด ทั้ง 10 ก้อน
ก็ จะ ไม่ เจ็บมือ
เพราะ พลังงาน ที่ ส่ง ลงไป ผ่านลงไป ที่อิฐ ได้ หมด ( หรือ เกือบหมด )

หาก ฟัน แล้ว อิฐ ไม่ หัก ...... นะซิ
พลัง งาน ที่ สะท้อนกลับ มาก
มือ............................เจ็บ ๆ ๆ .................55

ตรงนี้ ควรระวัง
กระดูก มือ อาจ หัก หรือ ร้าว ได้ ........

( ฉ. 18+ เป็น ความสามารถ เฉพาะบุคคล
กรุณา ใช้วิจรณะญาน ในการ ลอก เลียนแบบ.....นะ ครับ .....55 )


หลัง จาก ที่ ทำได้ สัก ครั้ง สอง ครั้ง
ก็ ทำได้ มาโดย ตลอด แหละ ครับ

 

พี่ดาวทะเลทราย สุดยอดนักคาราเต้ อย่างกับหนังกำลังภายในเลยครับ

 

....................แห่ แห่.....
พวกนักคาราเต้ จริงๆ เค้า ฟัน ได้ ทีหนึ่ง เยอะ กว่า นี้ ครับ
ผม มัน ลอง เล่นๆ ( ตอน สมัย เด็ก ๆๆ )

 

ไป เที่ยว หลาย วัน มี เรื่องมา เล่า

เที่ยวนี้ ไปหลายวัน
ไป อุบล เอาทุนไป ช่วยโรงเรียน บ้านหนองคู
เพื่อ สร้างอาคารเรียน + ให้ ทุนการศึกษา เด็กนักเรียน

แล้ว เลย ข้าม โขง ไป ฝั่งลาว อีก 3 คืน

ได้ นำวิชา พลังเอกภพยูเรอัส ไป ใช้ รักษาอาการบ่วยไข้ ชาวคณะ ที่ไปด้วยกัน ฯ
จน ไกด์ ชาว ลาว ติดใจ
อยากรู้ อยากเห้น ว่า เรา ทำได้ อย่างไร
บ้างเรื่อง เค้า ก็ งง ว่า เรารู้ ได้ ยางไง

พวก ไกด์ ชวน ให้ ผม ไป อีก แจก เบอร์โทร แถม อีเมล
จะมา เมื่อไร ให้ บอก นะ.........55

แถมติดสินบน ผม ซะด้วย

มารอบหน้า มาเป็น สตาป กับทีมงานของเขา ก็ ได้
จะได้ไม่ต้องเสียเงิน.......55

แต่ ขอ ให้ เราสอน และ เล่า เรื่อง ลี้ลับ ให้ เค้าฟัง เป็นการตอบแทน

ก็ เข้าท่า ดี นะ
เที่ยว แบบ ไม่ ต้อง เสีย ตัง ....

 

ทิป นี้ สุด ๆ
อุปสรรค .... เยอะ มาก
พวกเราไป กัน 2 รถบัส แปดสิบกว่าคน

แค่ ออกเดินทาง ไปได้ หน่อย รถ บัส คันหนึ่ง เสีย
วาวล์ เปรค รั่ว
เดชะ บุญ ยังดี ที่ เข้าปั้นน้ำมัน จอดเสร็จ แล้ว ถึง รั่ว
นับว่า เฮง มาก ๆ

เสียเวลา ซ่อม เปลี่ยน อยู่ หลายชั่วโมง

จนทำให้ กำหนดการ เคลื่อน ไป ถึง 9 ชั่วโมง

กำหนกการ ว่า ไป ถึง โรงเรียนบ้านหนองคู ตอน เช้าๆ
ชาวบ้าน มารอ ต้อนรับ ทั้ง เด็ก ทั้งผู้ใหญ่ คนฒ่าคนแก่ มารอกัน เต็มโรงเรียน

ปรากฏว่า เรา มาถึง เสียจน บ่ายสามโมงเย็น......

โรงเรียนบ้านหนองคู นี่ นะ ทางเข้า ก็ สุดๆ
แยก จากถนนใหญ่ ไป อีก หลายสิบกิโล เป็นทางเข้าหมู่บ้าน ทางลูกรัง เล็กๆ

เอารถบัส 2ชั้น เข้าไป ออกจะ ทุลัก ทุเล มากอยู่ทีเดียว

ยังดี ที่ ทางโรงเรียน ส่งคน ออกมารอรับ นำทางให้
แถม ยังมี มอเตอร์ไซค์ คอยวิ่งตาม ( ถือไม้ ไผ่ยาวๆ ไว้ ยกสายไฟฟ้า ที่พาดขวางถนนให้ )
ไม่ อย่าง นั้น รถ บัส คง วิ่งเข้าไป ไม่ได้
มารู้ เอา ตอนถึง โรงเรียนแล้ว
ว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียน ขอแรง ชาวบ้าน มาช่วยกัน ตัดแต่งกิ่งไม้ ข้างทาง
เพื่อให้ พวกเรา เอารถบัส เข้าไป ได้.........

ถือว่า เป็นงานหนัก เอาการ หลาย สิบกิโลเมตร
รถ เรา เลี้ยวเข้า ซอย ไป ใช้เวลา บนทางลูกรัง ชั่วโมง ครึ่ง จึงถึง โรงเรียน



โรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียน เล็กๆ ในหมู่บ้าน
สอน ตั้งแต่ ชั้น ป.1 - ป.6 เท่านั้น
มี นักเรียน 76 คน ( ถ้าจำไม่ ผิดนะ )
ครู 5 คน ( รวม ตัว ผ.อ. ด้วย )

เป็นโรงเรียนขนาดเล็กมาก เสียจน ไม่ สามารถ ดูแล ตัวเองได้
ขอ งบ พัฒนา ไปยัง ส.ร.ฐ. ก็ หลายปี แล้ว ไม่ ได้ งบสักที
จน อาคาร ต่างๆ ชำรุด ทรุดโทรม ไป ตามกาลเวลา
จน ครูอาจารย์ ในโรงเรียน ต้อง ออกไป ขอความช่วยเหลือ จาก ภายนอก

ยังดี ที่ ยังมี คนใจบุญ มาช่วยกัน บ้าง
จนปรับปรุง สภาพ โรงเรียน ได้ จนถึง ทุกวันนี้




รถบัส จอด หน้าโรงเรียน
พวกเรา เดิน เข้าไป ชาวบ้าน และ เด็กนักเรียน ยืนรอ ต้อนรับ พวกเราอยุ่

น่า ประทับใจ กับการ รอคอย ของชาวบ้าน ตั้งแต่ 9 โมง เช้า
พวกเรา มาถึง เอา บ่าย 3 โมง เย็น
เค้า ก็ ยัง นั่งรอ ยืน รอ พวกเรา ...........







ภาพ นี้ ถูกใจ ผม
โต๊ะอาหาร ที่ ทางโรงเรียน เตรียมไว้ ต้อนรับเรา
คน กำลัง หิว
เห็น อาหาร ดี ใจ เป็น ที่สุด....................

อาหาร กิน อะไร อร่อย ไปหมด.. กำลังหิว โซ ......55




สภาพ อาคารเรียน หลังที่ 2
เก่า แก่ คงใช้ได้ อีก ไม่ กี่ปี ...




ส่วนอาคาร 1 ชำรุด พัง ไปแล้ว
จนต้องสร้างใหม่
คารา คาซัง ยังไม่เสร็จ.... ได้ เงิน ช่วยเหลือ จากคณะเรา + คราวนี้ คงสร้างต่อได้จนสำเหร็จ

ผ้าป่า ที่ นำมาในคราวนี้ มี คณะหลัก ของท่านผู้พิพากษา ได้ 4 แสนเศษ
รวมกับ คณะ เรา มาใส่ซอง กัน สด ๆ หน้าโรงเรียน อีก แสนเศษๆ
รวม เป็น 655,550 บาท ( โดยประมาณ )

คาดว่า สามารถ สร้างอาคาร ได้ จนแล้วเสร็จ ใน ปี นี้ แหละ

 

สนามในโรงเรียน ....ไว้ให้เด็กวิ่งเล่น เตะฟุตบอล
พื้นที่ ของโรงเรียน กว้างขวาง พอควร
แต่ มี อาคาร ไม่ กี่ อาคาร
สร้างเป็น อาคารธุรการ หลังเล็กๆ ห้องสมุด ขนาดเท่าห้องนอน ของ คน กทม.

แล้วล้อมรอบด้วยทุ่งนา ที่กำลัง ออกรวง ชูช่อ รอ การเก็บเกี่ยว




คณะ เรา กำลัง แจก ทุนการศึกษา ให้ นักเรียน ทุกคน คนละ 1 พันบาท

ในภาพ นี่ ก็ ยัง แถม ค่าอาหาร ค่าขนม กับ เด็กๆ ทุกคน อีก .....55




กับ นักเรียน อีก สามสิบกว่าคน ที่ ได้ รับทุนการศึกษา ต่อเนื่อง ทุกเดือน ไปจนเรียนจบ

ถ้ามี รอบ ต่อไป คง ได้ ทุนต่อเนื่อง กัน ทุกคน ทั้งโรงเรียน







เห็น เด็กๆ เค้า มีความสุข สนุกสนาน กัน
ผุ้ใหญ่ อย่าง เรา ......................... พรอย ยิ้ม ไม่ หุบ ไปด้วย.....55




อ้าว .... คุณแม่ คุณอา คุณเจ๊ กำลัง เอาเงิน ใส่ซอง เพิ่ม
เพื่อเป็น กองทุน ของโรงเรียน................สาธุ สาธุ สาธุ




พอ เสร็จ สับ เรื่อง การ มอบเงิน มอบทุนการศึกษา แล้ว
ทางโรงเรียน ได้ เชิญ หมอธรรม ( ไม่ รู้ ทางอีสาน เค้าเรียกอย่างนี้หรือเปล่า )
มาทำพิธี บายศรี สู่ ขวัญ ให้ กับคณะ พวกเรา



พอ หมอธรรม ขึ้น บท ขุมนุมเทวดา.....
พลัง ลง จริงๆ เทพเทวา ท่านมา อำนวยพร จริงๆ

ขนาดผม อยุ่ ห่างๆ คอยถ่ายภาพ ไป ด้วย ยัง รู้สึก ได้ ชัดๆ

ผูกข้อไม้ ข้อมือ กัน ตาม ประเพณี ของ ชาวอีสาน........

.............

ตอน ไป กว่า จะ ถึง ทุลัก ทุเล กัน
หนึ่งคืน หนึ่งวัน กว่า จะไป ถึง ได้

เห็นภาพ เด็กๆ น่ารักๆ
เห็น พวกพ้อง พี่น้อง เรา ที่ ไปด้วยกัน ต่าง ปลื้ม ปิ ติ
อิ่ม อก อิ่ม ใจ กัน ไป ทุกคน........................

................................................................

ออกจาก โรงเรียน ก็ เย็นค่ำ แล้ว
พวกเรา ไป พัก ค้างคืน ที่ โรงแรม สุณีแกรนด์
เป็นโรงแรม ระดับ 4 ดาว.......... ได้ นอน พักผ่อน กัน สบายๆ สักหน่อย คืนนี้....55

ยังมี ต่อ....

 

กว่าจะเข้ามาถึงโรงแรม ในเมืองอุบล ก็ มืดค่ำแล้ว
แถม วันเสาร์ ที่ 23 ที่ผ่านมา
มีงานไหลเรือ ไฟ พอดี ด้วย

รถรา ติด ในเมือง อีก..... ก็ ถือว่า นั่งรถ ชมเมือง ไป ...
ดูไหลเรือไฟ ตอน รถ ติด อยู่ บนสะพาน ..................55

ตอนนั้น ผมเอง ก็ เหนื่อย ง่วง เสียจน ลืม ถ่ายภาพ ไว้ ...... จึงไม่มีภาพมาอวด

พอถึง โรงแรม รีบเข้าห้องพัก
แล้ว ไม่ พูด ร่ำ ทำเพลง....... ลงไป ห้องอาหาร .....ทันที ... ด้วยความหิวโหย...55

หลังจาก กินข้าวกินปลา เติมพลัง ยังกะ เติมน้ำมันรถ เต็มถัง.....

ออกมา เดิน ฉุยฉาย สัก หน่อย.... ( เดิน คนเดียว แหละ )
เดินออกจาก โรงแรม มาทางซ้าย .. เดินไป ได้สัก ครึ่ง กิโล เห็นไม่ มีอะไร ก็ เดินกลับ
ไป ทางขวาบ้าง.... ไป อีก สัก ครึงกิโล ไม่มี อะไร กลับ ดี กว่า

ระหว่าง เดินกลับเข้าโรงแรม ได้ กลิ่น เหมือน พริกไท ฉุนๆ ร้อน ผิวหนัง นิดๆ

ก็ ไม่ ได้ คิด อะไร มาก
เข้าใจ ว่า คงมี ร้านอาหาร แถวๆ นี้ ทำพริกไท หก ปลิว ลอยลม มา เท่านั้น

มาเข้าใจ ได้ ตอน วันขากลับ ผ่านอุบล อีกที

ลงรถ มากินอาหารค่ำ
ได้กลิ่นนี้ อีก .......... แถม อาการ เหมือนๆ กัน
ทั้งๆ ที่ เรา ลงกินอาหาร ก็ หาง จากโรงแรมที่พัก เมื่อวันแรก ตั้งไกล

ทำให้ นึก ขึ้นมาได้
ตอนที่ อ.สุวิ ส่ง ตัวอย่างพิษ พญานาค มาให้ ผม ดู

โดย ให้ พญานาค ตัวเล็กๆ ปล่อยพิษ มาพอเป็น ตัวอย่าง ให้ ผม สัมผัส

นึก ได้ ดังนี้..............ใช่ แล้ว แน่ๆ เลย
เมืองอุบล โดน พิษพญานาค ด้วย แล้ว........

ก่อนที่ คิดจะช่วยใคร... เอา ตัวเอง ให้ รอด เสียก่อน.......55

จัด ไป
ป้อง กัน ตัว เอง ก่อน..... แล้ว จึง ส่งไป ให้ คณะที่ มาด้วยกัน

....................55

ไม่ รู้ ว่า อุบล ตอนนี้ โดน น้ำ ท่วมหรือ ยัง ผม ก็ เพิ่งกลับมาได้วันเดียว
ยังไม่ ได้ ตาม ข่าว

พญานาค มา ก็ มี สิทธิ์ ที่ จะ โดน น้ำท่วม ....... รอฟังข่าวดู ก็ แล้ว กัน

....................


ยังมี ตอนต่อไป
เดี๋ยว ค่อยมาเล่า ตอน เข้า ฝั่งลาว ต่อ ครับ

 

ขอคั่น รายการ
ก่อน ที่ จะ เล่า นิทาน ให้ ฟัง ต่อ

ตอนนี้ กทม. ก็ น่าจะ มี พิษ ปนเปื้อน เข้ามาแล้ว

ทั้งทางอากาศ และ น้ำ

ให้ พี้น้อง ยูเรอัส ทุกท่าน ป้อง กัน ตัวเอง ไว้ อย่าประมาท

ทำน้ำพลัง อาบ และ กิน เป็นประจำ ทุกมื้ออาหาร และ ทุกครั้งที่อาบน้ำ


อย่าประมาท นะ ครับ

มิ ใช่ เรื่อง ล้อเล่น.....................................

 

ยินดีในบุญกับคุณดาวและทุกๆท่านที่ไปร่วมในงานนี้ด้วยครับ
มาปูเสื่อรอฟังอยู่ครับ อิอิ

 

พวกเรา ออกจาก อุบล ทางด่านช่องเม็ก เขาประเทศลาว ทางด่านปากเซ

มีเจ้าหน้าที ที่ เขาคอยประสานงาน ให้ คณะของเรา เค้าเตรียมเอกสาร ไว้ ล่วงหน้าแล้ว
คน ให้ลงรถ และ เดินผ่านด่าน ได้ เลย แทบไม่ต้องรอ
เดินเขาไป ในอาคาร ด่าน ศุลกากรและ ตรจคนเข้าเมือง ผ่านทะลุ ออกไป
ทางเดิน ด้านนอก
ทางเดิน เค้า กั้นรัวไว้ เป็นช่อง ตีซอง ไว้ ว่าอย่างนั้น เถอะ
พวกเรา เดินไป ตามช่องทาง จน ทะลุ ถึง ฝั่งลาว

สะดวก รวดเร็ว มาก........55

ข้างทางเดิน มีพวกชาวบ้าน นำผลผลิต มาวางชาย ส่วนมากเป็น ผลไม้ ของกิน
สะดุดตา ตรง เห็ดโคน................ ของชอบ... เค้า ขายไม่แพง
ใส่กระทง ๆ ขนาดผ่ามือ กระทง ละ 60-70 บาท
น่าซื้อไป ทำอาหารกิน........
แต่ต้องตัดใจ เพราะ มามากับทัวร์ คง ไม่มี เวลา ทำอาหาร....เป็นแน่
ถึง จะ ให้ ร้านอาหาร ทำให้ ก็ คงยุ่งยาก

เจ้า เห็ดโคน นี่ กว่า จะกิน กันได้ มันมี ขั้นตอนพอควร
ต้อง นำมา ขูด เอาดิน ผิว บริเวณ ก้านด้อกเห็ด ออก

ตรงนี้แหละ ที่ เสียเวลามาก เพราะต้องทำทีละดอก ทีละดอก

ระหว่าง รอ รถ บัส ข้ามด่าน ตามมา พวกเรา ก็ เดิน ชมร้านค้า ตามอัทธยาศัย
ร้านปลอดภาษี รู้สึก ว่า จะเป็นที่นิยม มากที่สุด

รอ แล้ว รอ เล่า นั่ง รอ ไป
รถบัส ของ เรา ไม่ ออกมา สักที

เจอ ปัญหา อุปสรรค อีกแล้ว เอกสาร รถยนต์ มีปัญหา .........55
กว่า จะ เคลียร์ กันได้ .... รอ ไป สองชั่วโมง กว่า ๆ......
สม เป็น " สะ บัก สะ บอม ทัวร์ " จริง..........จิ๊ง

ยังดี ว่า คนที่มาต้อนรับ พวกเรา เค้า เป็นฝ่ายต้อนรับ ของบริษัท การค้าใหญ่ ในฝั่งลาว
พอ มี เส้น มีสาย อยู่ บ้าง
จึง ขอ ให้ เจ้าหน้าที่ เค้า ผ่อนผัน ให้ เข้ามาได้

อุปสรรค ก็ผ่านไป ได้หมดแล้ว

เริ่ม ท่องเที่ยวกันได้แล้ว ..... ละ

 

คณะเรา ที่มากัน เค้าจัดกันเอง
ไม่ใช่ บริษัททัวร์ มืออาชีพ .... เค้าเป็นกลุ่มอาแปะ อาซิม อาอึ้ม (ผู้มีอายุ )
ที่ ชอบ หาทีไปเที่ยวทำบุญ ตามวัดวาอารม ต่างๆ

มีปัญหา ขลุกขลัก บ้าง หรือ หลายๆบ้าง ก็ ต้องให้อภัยกัน ไป

พอมาขึ้นที่ฝั่งลาว ก็ มีไกด์ ชาวลาว ขึ้นมา พาเที่ยว แนะนำ เล่าเรื่อง
อะไร ต่อมิ อะไร .... เป็นทีสนุกสนาน กันไป

ทีแรกที่ เค้าพา พวกเราไป

"น้ำตกผาส้วม"

ผมไม่ได้ เขียนผิด นะ...... ชื้อ เค้าเป็นอย่างนั้น จริงๆ........55

ทางเดินเข้าน้ำตก เค้ามี หมู่บ้าน ชนเผ่าต่างๆ ไว้ให้ นักท่องเที่ยว เข้าชม



ถึงจะเป็นหมู่บ้าน ชนเผ่า จำลอง
แต่ เค้าก็ ใช้ชีวิต อยุ่ กันจริงๆ
เป็นชนเผ่า จริงๆ





เป็นร้านค้า ของชนเผ่า
นำผ้าพื้นเมือง ที่ พวกเค้า ทอกันเอง กับมือ ขายให้ นักท่องเที่ยว






รายนี้ เป็นศิลปินเพื่อชิวิต
ดีด กีต้าร์ ( พื้นเมือง...55 )



บ้านหลังนี้ เค้า สร้างไว้เป็นพิพิธทภัณฑ์

ภายใน นำข้าวของ เครืองใช้ ของคนพื้นเมือง มาจัดแสดง
จะเห็น กระบุงไม้ไผ่ อยู่ หลายสิบใบ
ดูงานฝีมือ แล้ว สวยดี ครับ