บุญกับบารมี ถาม : บุญกับบารมีไม่เหมือนกัน ? ตอบ : บุญคือความดี บารมีคือกำลังใจ จริง ๆ แล้วการสร้างบุญคือการสร้างบารมี การที่เราได้ทำความดีหรือความชั่วก็ตาม จะส่งผลให้จิตใจของเราเข้มแข็งมั่นคงขึ้น คนชั่วก็มีบารมีของคนชั่ว คนดีก็มีบารมีของคนดี เกิดจากการสร้างสมมา คราวนี้จะกล่าวไปแล้ว บุญกับบารมีแทบจะแยกกันไม่ออก คือเรายิ่งทำมากเท่าไร บารมีก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เพราะยิ่งทำมาก แปลว่าจิตเราที่จะสละออกเพื่อตัดความโลภก็ยิ่งมีมาก ในเมื่อยิ่งมีมากก็แสดงว่าบารมีคือกำลังใจของเราก็ยิ่งสูงขึ้น เลยเกี่ยวกันจนแยกไม่ออก ถาม : หมดบุญได้ แต่บารมีไม่ถอย ตอบ : ไม่ถดถอย เขาหมดจากกำลังบุญส่วนนั้นก็จริง หมายถึงว่าคุณหาได้แค่นี้วันนี้ คุณกินไป..ใช่ไหม ? กินไปจนกระทั่งหมดแล้ว เราก็ต้องไปหาใหม่ แต่อายุของเราไม่ได้ลดลงนี่ เราก็แก่ไปเรื่อย ๆ อยู่ทุกวัน เงินเดือน เดือนนี้มาใช้หมดเกลี้ยงไปแล้ว ไม่ใช่เราจะกลับเป็นเด็กใหม่ เพราะยังแก่เหมือนเดิม บารมีคือกำลังใจ ตัวบุญคือสิ่งที่เราสร้างสมมา ยิ่งสร้างสมบุญมากเท่าไร บารมีด้านดีก็ยิ่งมากเท่านั้น ถาม : บารมีด้านชั่วมีหรือ ? ตอบ : คนทำชั่วลองไปยืนใกล้ ๆ ดูสิ บางทีเราขาสั่นนะ..กำลังใจของเขาที่ไปในด้านนั้น ใช้กำลังใจเหมือนกัน เพียงแต่ใช้ไปคนละทางเท่านั้นเอง ถาม : กำลังใจ หรือบารมี มี ๒ อย่าง ด้านดีกับชั่ว ตอบ : ประเภทกลาง ๆ ไม่มี กลาง ๆ จะมีตอนเข้าพระนิพพานแล้ว ถาม : ด้านชั่วกับด้านดีเท่า ๆ กัน ลักษณะคล้าย ๆ กันไหม ? ตอบ : ก็คล้ายกัน คือ เป็นผู้นำก็มีความเด็ดขาด ถาม : ในหลวงเคยถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า ทานบารมีตัวเดียวไปพระนิพพานได้ไหม ? ตอบ : ทำไมจะไม่ได้ ได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะเริ่มด้านไหน พอเราเริ่มตัวหนึ่ง อีก ๙ ตัวก็ได้ควบกันไปด้วย เราจะให้ทาน เราต้องรู้ว่าผลของการให้ดีอย่างไร ตัวนี้เป็นปัญญาบารมี คนจะให้ได้จิตต้องประกอบไปด้วยเมตตาเป็นปกติ ก็มีเมตตาบารมี คนที่มีเมตตาบารมี ศีลก็ทรงตัวเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะไม่คิดจะเบียดเบียนใคร ก็มีศีลบารมี ไล่ไปเถอะ ๑๐ ตัวอยู่ครบ ตัวเองเริ่มมาอย่างไรก็เอาตัวนั้นเป็นหลัก อย่างพวกเรามาด้านทานบารมี ก็มีหน้าที่อย่างเดียวคือ ตั้งหน้าตั้งตาให้ไปเรื่อย พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน ภาพโดยคุณมะลิแก้ว เว็บวัดท่าขนุน ที่มา : เว็บวัดท่าขนุน